วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Facebook ควง Twitter ให้ชาวอเมริกันใช้งานแบบไม่ผ่านอินเทอร์เน็ต


เพราะการตลาดที่ดีที่สุดนั้นไม่ได้อยู่ที่การประชาสัมพันธ์ แต่อยู่ที่การทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด เช่นเดียวกับ Facebook ที่ควงแขน Twitter สร้างสรรค์ระบบที่ทำให้ชาวอเมริกันสามารถติดตามเรื่องราวเครือข่ายสังคมได้แม้อินเทอร์เน็ตจะถูกตัดขาด หวังตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ประสบภัยจากเฮอร์ริเคน Sandy
เพราะเฮอร์ริเคน Sandy นั้นยกพลขึ้นสู่ชายฝั่งทะเลตะวันออกหรือ Eastern Seaboard ของสหรัฐฯเรียบร้อย ทำให้หลายพื้นที่ในสหรัฐฯไม่มีไฟฟ้าใช้งาน การไร้ไฟฟ้านี้เองที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่าย Wi-Fi หรือเครือข่าย 3G อย่างเคย ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ทำให้หลายคนไม่สามารถรับรู้ความเป็นไประหว่างครอบครัว,เพื่อนฝูง และทำให้ไม่ได้รับคำตอบข้อสงสัยหรือความช่วยเหลือที่ร้องขอได้
วันนี้ทั้ง Facebook และ Twitter ปรับปรุงระบบทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความ SMS เข้าสู่ระบบของ Facebook ได้โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต แต่จะต้องตั้งค่าที่เว็บไซต์เป็นกรณีพิเศษ
ผู้ที่ต้องการ tweet ผ่านข้อความ SMS จะต้องเปิดการทำงานที่ Twitter.com โดยคลิกที่ “Settings” จากนั้นคลิก “Mobile” ก่อนจะป้อนเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ลงไปภายใต้คุณสมบัติ “Activate Twitter text messaging” จากนั้นผู้ใช้รายนั้นจะต้องส่งข้อความ “GO” ไปที่เบอร์ 40404 ซึ่งจำกัดเฉพาะการส่งจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
เมื่อส่งข้อความแล้ว ผู้ใช้จะได้รับข้อความ SMS แจ้งว่าคุณสมบัติการส่ง SMS เข้าสู่ Twitter นั้นสามารถใช้งานได้แล้ว โดยผู้ใช้สามารถตั้งค่าการเปิดหรือปิดระบบแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวบนเครือข่ายได้ผ่าน SMS ได้บนเว็บไซต์ twitter.com ได้ตามต้องการ
เพียงเท่านี้ ผู้ใช้ Twitter จะสามารถส่งข้อความ Tweet ด้วยการส่งข้อความ SMS เข้าที่เบอร์ 40404 โดยไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต
เช่นเดียวกับ Facebook ทุกคนจะสามารถอัปเดทสถานะได้ผ่าน SMS ไม่ต่างกัน โดย Facebook นั้นเปิดให้ผู้ใช้สามารถสมัครเพื่อรับข้อมูลอัปเดทจากเพื่อนหรือครอบครัวได้อย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็สามารถใช้บริการ Facebook chat ผ่าน SMS ได้เช่นกัน ซึ่งทั้งหมดต้องลงทะเบียนเปิดคุณสมบัตินี้ที่ Facebook.com
เพียงคลิกที่ “Account Settings” จากนั้นเลือกที่ “Mobile” กรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ และคลิก “Activate Text Messaging” จุดนี้ผู้ใช้ต้องเลือกประเทศและโอเปอเรเตอร์ที่ใช้บริการ เมื่อทำตามขั้นตอนแล้วให้พิมพ์ว่า “F” ส่งไปที่เบอร์ 32665
หลังจากได้รับข้อความยืนยันเปิดใช้บริการ ผู้ใช้ Facebook จะสามารถอัปเดทสถานะด้วยการส่ง SMS ไปที่เบอร์ 32665
เรียกความอุ่นใจให้ชาวอเมริกันได้มากเลยทีเดียว

คัดลอกมาจาก :http://thumbsup.in.th/2012/10/facebook-twitter-sms/

facebook เปิดกระดานหางานชน Linkedln


อยู่เฉยไม่ได้แล้วสำหรับบริการเครือข่ายสังคมมืออาชีพอย่าง LinkedIn ที่วันนี้กำลังจะถูกยักษ์ใหญ่ Facebook แย่งชิงตลาด ล่าสุดเครือข่างสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลกอย่าง Facebook เปิดตัวบริการกระดานหางานในชื่อ Social Jobs เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

Facebook ประกาศความร่วมมือกับกรมแรงงานหรือ Department of Labor ของสหรัฐฯ และเว็บไซต์ให้บริการหางานชั้นนำหลายแห่งของสหรัฐฯอย่าง Monster.com, BranchOut และ Jobvite ทั้งหมดนี้ Facebook ระบุว่าเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมจัดหางาน เพื่อให้งานที่ดีได้ไปจับคู่กับบุคลากรที่ดีด้วย Social Media
บริการกระดานหางานหรือ job board ของ Facebook นั้นจะให้บริการผ่านแอพพลิเคชันในชื่อ Social Jobs ข้อมูลระบุว่า รายการงานที่ถูกแสดงผลในแอพพลิเคชันนี้มีจำนวนมากกว่า 1.7 ล้านตำแหน่งแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ธรรมดาในวันที่เพิ่งเปิดตัวบริการเช่นนี้

รายงานระบุว่า ผู้ใช้แอพพลิเคชัน Social Jobs นั้นสามารถเสิร์ชหางานที่ต้องการได้ด้วยคีย์เวิร์ด ทั้งชื่อตำแหน่งงาน ประเภทธุรกิจ และสถานที่ตั้งของสำนักงาน โดยนักล่างานจะสามารถเห็นผลการเสิร์ชที่ดึงจากเว็บไซต์ประกาศหางานที่เป็นพันธมิตรกับ Facebook ได้อย่างสะดวกสบายและทั่วถึง
ก่อนหน้านี้ Facebook เริ่มให้บริการ Social Jobs ในฐานะแหล่งรวมคอนเทนต์และเครื่องมือสำหรับนักล่างานมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่บริการในครั้งนั้นยังเป็นการให้บริการเฉพาะคอนเทนต์ด้านการศึกษาและเครื่องมือจากหน่วยงานรัฐเท่านั้น ซึ่งนอกจากกรมแรงงานสหรัฐฯ ยังมีข้อมูลจากสมาคมผู้จ้างงานแห่งชาติหรือ National Association of Colleges and Employers และองค์กรอื่นๆ ที่ต้องการพัฒนาฝีมือแรงงานและบุคลากรอเมริกันด้วย Social Media
1 ปีผ่านไป Facebook มองว่าตัวเองมีความพร้อมในการให้บริการกระดานหางาน ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า Facebook จะสามารถเพิ่มจำนวนพันธมิตรที่เป็นเว็บไซต์หางานอื่นๆ ได้อีกในอนาคต เนื่องจากฐานผู้ใช้ Facebook ที่มีมหาศาลมากกว่า 1 พันล้านคนทั่วโลก ย่อมทำให้ผู้ประกอบการเว็บไซต์หางานรายย่อยอยากหันมาจับมือกับ Facebook แน่นอน

คัดลอกมาจาก : http://thumbsup.in.th/2012/11/facebook-social-jobs-app/

โรงแรมไฮเทคที่สเปน ใช้ facebook และจ่ายเงินด้วยระบบพิมพ์ลายนิ้วมือ

ภาพจาก springwise.com
Facebook กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนส่วนมากแล้ว ไม่เว้นแม้แต่โรงแรมที่เราเอาไว้พักผ่อนกัน ตอนนี้เริ่มมีการนำเอา Facebook เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวที่จะช่วยเรียกลูกค้าได้แล้ว พร้อมมีระบบการจ่ายเงินสุดไฮเทคไว้บริการนักท่องเที่ยว
ปกติแล้วเวลาที่เราไปไหนต่างจังหวัดหรือไปพักตามโรงแรมต่างๆ กิจกรรมที่เราต้องทำสำหรับผู้ที่ “คลั่ง” ในโซเชียลมีเดียคงหนีไม่พ้นการอัพเดท Status, การ Check-in รวมถึงการถ่ายรูป แต่ทั้งหมดก็ต้องใช้สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพพลิเคชัน Facebook ในการทำทุกอย่างที่กล่าวไป
ภาพจาก tnooz.com
แต่สำหรับที่โรงแรม Ushuaïa Ibiza Beach Hotel ที่ประเทศสเปนหันมาใช้ระบบที่มีการเชื่อมต่อกับ Facebook โดยจะมีตู้ (Kiosk) ที่มีอยู่ในโรงแรม และให้สายรัดข้อมือที่ทำการเชื่อมต่อกับบัญชีรายชื่อ Facebook ของผู้เข้าใช้งานมาใช้งานร่วมกับตู้ด้วยการใช้เทคโนโลยี RFID สำหรับตู้ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกด Like ในหน้า Page ของโรงแรม, การ Check-in บน Facebook Place และการถ่ายรูปพร้อมการ Tag ชื่อเป็นต้น โดยเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2554 และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาก
และที่บอกไปทั้งหมดนั้นกำลังจะเป็นอดีตไป เพราะทางโรงแรมจะเปลี่ยนเทคโนโลยี ด้วยการใช้ระบบพิมพ์ลายนิ้วมือ (fingerprint) มาใช้แทนในเพื่อการใช้งานบริการในโรงแรม การระบุว่าเราเป็นใครจากการลงทะเบียนตอนที่เรา Check-in กับทางโรงแรมนั่นเอง
นอกเหนือไปกว่านั้น ในส่วนของการจ่ายเงิน ถึงแม้ในตอนนี้ Mobile Payment นั้นจะมาแรงจริงๆ แต่สำหรับที่นี่จะใช้ระบบพิมพ์ลายนิ้วมือที่ชื่อว่า paytouch มาใช้เป็นโรงแรมแรกของโลก
โดยระหว่างที่เราเที่ยวหรือใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรม ก็สามารถใช้บริการและชำระเงินผ่านเครื่องรับชำระเงินด้วยนิ้วมือของเราเองได้อย่างง่ายดายแบบไม่ต้องพกกระเป๋าเงินหรือพกบัตรให้ยุ่งยาก โดยทางพนักงานก็จะเอาเครื่องนี้มาเสริฟพร้อมกับอาหารและเครื่องดื่มที่เราสั่งมาเลยในครั้งเดียว โดยวิธีการนี้จะช่วยลดการยุ่งยากและการสับสนใจการจ่ายเงินที่ต้องเดินไปมาเพื่อคิดเงินและมาทอนเงินนั่นเองซึ่งระบบนี้น่าจะเป็นการผูกกับบัตรเครดิตไว้เลยตอนที่ทำการลงทะเบียน “นั่นเท่ากับว่า พิมพ์ปุ๊ป เงินหายปั๊บ” นั่นเอง
ลองดูวิดิโอแนะนำของทางโรงแรมนี้ได้ เห็นแล้วก็อยากบินไปสเปนซะตอนนี้เลยทีเดียว

แต่มองได้อีกแง่ของระบบที่ทางโรงแรมนี้ใช้น่าจะเอาไปประยุกต์ใช้งานได้อีกหลายอย่างหลายสถานที่และหลายธุรกิจ ซึ่งถ้านึกถึงว่าระบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงแพงเพราะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเสียเหลือเกิน ในมุมมองของผมมองว่านี่คือจุดที่คุ้มกับการลงทุนลงไปเพราะนอกจากจะได้ชูระบบนี้เป็นจุดเด่นแล้ว ยังสามารถสร้างการบอกต่อผ่านทาง Facebook ด้วยการใช้เครื่องมือนี้ได้อย่างง่ายๆ ซึ่งจุดนี้น่าจะช่วยได้เป็นอย่างดี
เมืองไทยมีเมื่อไหร่ บอกกันด้วยนะครับ ผมจะไปรีบใช้บริการแน่นอนครับ ^^

คัดลอกมาจาก  : http://thumbsup.in.th/2012/11/fingerprint-payment-and-facebook-in-spain-hotel/

เฟซบุ๊ก ปิดฟีเจอร์ตั้งคำถาม (Facebook Questions) สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Techcrunch


 รายงานข่าวล่าสุด เฟซบุ๊ก (Facebook) ประกาศปิดฟีเจอร์ตั้งคำถามหรือ หรือ Facebook Questions โดยจะเริ่มทยอยปิดฟังก์ชั่นตั้งคำถามสำหรับผู้ใช้ทั่วไป ส่วนทางด้านแฟนเพจ (Facebook Page) และกลุ่ม (Group) ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ตามปกติ

สำหรับฟีเจอร์ตั้งคำถาม (Facebook Questions) เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2010 เป็นฟีเจอร์ที่เฟซบุ๊กทำออกมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งคำถามหรือสร้างโพลล์สำรวจความคิดเห็นด้วยระบบ Facebook Questions เอาไว้ตั้งคำถามที่อยากรู้แล้วให้เพื่อน ๆ เข้ามาตอบหรือโหวต หากคำตอบไม่ถูกใจก็สามารถเพิ่มคำตอบเพิ่มไปในคำถามนั้นได้ แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร

Facebook Questions

ทั้งนี้ การปิดฟีเจอร์ดังกล่าวคาดว่าทางเฟซบุ๊กจะมุ่งพัฒนาฟังก์ชันอื่น ๆ แทน ถึงแม้ทางเฟซบุ๊กจะไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมถึงปิดฟังก์ชันนี้ แต่ก็พอจะเดาได้ว่าทางเฟซบุ๊กอาจจะทุ่มกำลังไปพัฒนาฟังก์ชันค้นหา (Facebook Search) เพราะเป็นสิ่งที่เฟซบุ๊กตั้งใจที่จะเปิดฟังก์ชันนี้มานานมากแล้ว

อย่างไรก็ดี ต้องมารอดูกันว่า หลังจากที่ปิดฟีเจอร์ตั้งคำถามไปแล้ว ทางเฟซบุ๊กจะงัดไม้เด็ดอะไรออกมาโชว์แทนฟีเจอร์ที่ปิดการใช้งานบางส่วนลงไป


 
คัดลอกมาจาก :  http://fbguide.kapook.com/view49839.html

เฟซบุ๊กทดสอบแสดงโพสต์แบบคอลัมน์เดียวบน Timeline

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก InsideFacebook

หลังจากที่เฟซบุ๊กปรับ หน้าโปรไฟล์ของผู้ใช้งานทุกคนเป็นแบบ Facebook Timeline และเชื่อว่าตอนนี้ยังมีผู้ใช้งานหลายคนที่ยังคงมีอาการไม่ปลื้มกับหน้า โปรไฟล์แบบใหม่นี่อยู่ แต่วันนี้เรามีข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ชอบหน้าโปรไฟล์แบบ Timeline ล่าสุดเฟซบุ๊กกำลังทดสอบหน้าโปรไฟล์แบบใหม่ที่จะปรับหน้าตาการแสดงข้อความบน หน้าโปรไฟล์จากสองคอลัมน์ลดเหลือเพียงคอลัมน์เดียวเท่านั้น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหน้าโปรไฟล์แบบเก่าในอดีตนั่นเอง

ตัวอย่างหน้าโปรไฟล์แบบ 1 คอลัมน์

รายงาน ล่าสุดได้เปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Inside Facebook มีผู้ใช้งานบางส่วนพบว่าหน้าโปรไฟล์ของตัวเองมีรูปแบบเปลี่ยนไป จากที่เคยแสดงข้อความแบบสองคอลัมน์กลับเหลือเพียงคอลัมน์เดียว ส่วนคอลัมน์ด้าน ขวาจะแสดงข้อความต่างๆ ที่เป็นกิจกรรม (Activities) ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแสดงชื่อเพื่อน, สถานที่ที่เช็คอิน, การกด Like หน้า Page และแอพพลิเคชันต่าง ๆ ที่มาเชื่อมต่อกับ เฟซบุ๊กยังคงมีอยู่เหมือนเดิมเพียงแต่ถูกบีบให้มีขนาดที่เล็กลง และเมื่อได้มีการตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊กก็มีคำยืนยันออกมาแล้วว่าได้มีการทดสอบหน้าโปรไฟล์แบบใหม่นี้อยู่จริง และจะมีเพียงผู้ใช้บางส่วนเท่านั้นที่ได้เห็นไทม์ไลน์ในลักษณะนี้


(ภาพตัวอย่างโปรไฟล์แบบคอลัมน์เดียว ด้านข้างจะมีพื้นที่ว่าง เฟซบุ๊กอาจจะใช้เป็นพื้นที่โฆษณาก็ได้)

ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมว่าหน้าโปรไฟล์ที่มาพร้อมกับการแสดงผลแบบใหม่ จะเปิดให้ใช้งานจริงได้เมื่อไหร่ คงต้องรอทางเฟซบุ๊กออกมายืนยันอีกที อย่างไรก็ดี นี่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ชอบหน้าโปรไฟล์แบบไทม์ไลน์ ยังไงก็อดใจรออีกนิดละกันนะครับ

คัดลอกมาจาก :

อ้วน-จน-ขี้เกียจ! 3 สิ่งที่เกิดขึ้นได้ หากมีเพื่อนในเฟซบุ๊กเยอะ


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

สาวกโซเชียลเน็ตเวิร์กหลายคนคงรู้สึกภูมิใจนักหนากับจำนวน "Friends" หรือ "เพื่อน" ในหน้าเฟซบุ๊กของตนเอง นัยว่ายิ่งจำนวนเพื่อนเยอะเท่าไหร่ ยิ่งแสดงว่าเขานั้นกว้างขวาง เพื่อนเยอะ คนรู้จักมากมาย ดูแล้วเป็นคนดังดีจัง เปิดหน้าเฟซบุ๊กขึ้นมาแต่ละที ก็เพลิดเพลินกับการอัพเดทสิ่งต่าง ๆ ที่บรรดาเพื่อนฝูงจำนวนมหาศาลแชร์กันมาในสเตตัสของตน แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งหนึ่งที่คืบคลานมาช้า ๆ พร้อมกับจำนวนเพื่อนที่มีมากขึ้น ก็คือโอกาสที่เจ้าของเฟซบุ๊กผู้กว้างขวางคนนั้นจะเป็นคน "อ้วน" "จน" และ "ขี้เกียจ" มันมีเยอะมากน่ะสิ!!

ทั้งนี้ เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยนำเสนอผลการสำรวจของ 2 ศาสตราจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังของอเมริกา คีธ วิลค็อกซ์ จากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย และ แอนดรูว์ สตีเฟน จากมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก ซึ่งทั้งทำการสำรวจผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 500 ราย ในหัวข้อว่าด้วย เพื่อนในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ความมั่นใจในตนเอง และความสามารถในการควบคุมตนเอง โดยได้ทำการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมในโลกออนไลน์ สถานะทางการเงิน และพฤติกรรมการกินแบบไม่บันยะบันยัง รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวพื้นฐานอย่าง น้ำหนัก ส่วนสูง

ผลปรากฏว่า ผู้ที่เข้าใช้เฟซบุ๊กบ่อย ๆ มีดัชนีมวลกาย (BMI) สูง มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกินแบบไม่อั้นเยอะ แถมยังเป็นหนี้บัตรเครดิตมากอีกด้วย

ส่วนอีกการทดลองหนึ่ง ก็แบ่งผู้ถูกทดสอบออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกให้เล่นเฟซบุ๊กเป็นเวลา 5 นาที ส่วนอีกกลุ่มให้นั่งท่องโลกออนไลน์ไปเรื่อย ๆ จากนั้นจึงสอบถามคนทั้งหมดถึงความสมัครใจในการเข้าร่วมการประมูล The New iPad ผลที่ได้ปรากฏว่า ผู้ที่เล่นเฟซบุ๊ก และมีจำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊กมาก มีสถิติตอบรับการเข้าร่วมการประมูลมากที่สุด



จากผลการทดสอบทั้ง 2 กลุ่ม ออกมาสอดคล้องกันและชี้ให้เห็นว่าข้อสรุปที่ฟังแล้วรู้สึกเหลือเชื่อ และคิดว่าไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องกันได้ว่า จำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊กนั้นส่งผลต่อภาวะทางจิตใจบางประการ นั่นคือการมีจำนวนเพื่อนมาก ทำให้คนคนนั้นรู้สึกดีกับตัวเองมาก ทว่าความรู้สึกมั่นใจในตัวเองสูงแบบนี้ กลับไปลดความสามารถในการควบคุมตัวเองให้ต่ำลง จนเผลอปล่อยเนื้อปล่อยตัวกับสิ่งที่รู้ว่าทำแล้วผลที่ได้ไม่ค่อยจะดี อย่างการให้รางวัลที่ตัวเองรู้สึกดี ด้วยการกินตามใจปากฉลองความสุข หรือการช้อปปิ้งมือเติบจ่ายเงินเป็นฟ่อน แถมยังใช้เวลากับโซเชียลเน็ตเวิร์กมากเกินไปจนไม่เป็นอันทำอะไรด้วย ซึ่งเป็นที่มาของความ "อ้วน" "จน" และ "ขี้เกียจ" นั่นเอง


แหม่ อ่านอย่างนี้แล้ว รีบคลิกกลับไปดูจำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊กของตัวเองทันที!! งั้นเดี๋ยวขอตัวไปไล่ลบคนที่เป็นเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทออกก่อนนะ ก็กลัวจะ "อ้วน-จน-ขี้เกียจ" แบบที่เขาว่ามาอ่ะ แย่เลย -.-"
คัดลอกมาจาก : http://fbguide.kapook.com/view50641.html

เฟซบุ๊กทดสอบแจ้งเตือนแบบใหม่ด้วยเสียงและตอบคอมเมนต์แบบ Reply


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก venturebeat, mashable


ช่วงนี้เฟซบุ๊กขยันเป็นพิเศษเริ่มทดสอบฟีเจอร์ใหม่ ๆ หลายอย่าง คาดว่าคงเอาอกเอาใจชาวเฟซบุ๊กให้รู้สึกตื่นเต้นและไม่น่าเบื่อจำเจกับรูปแบบเดิม ๆ ก็เป็นได้ ดยล่าสุดเฟซบุ๊กได้ทำการทดสอบระบบแจ้งเตือน (Notification) แบบใหม่ด้วยเสียง ซึ่งระบบแจ้งเตือนในปัจจุบันที่หลายคนคุ้นเคยเมื่อมีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นบนเฟซบุ๊กของเราจะมีตัวเลขสีแดง ๆ แสดงอยู่ด้านบนเพื่อให้เราทราบว่ามีความเคลื่อนไหวจากเพื่อน ๆ แต่ระบบแจ้งเตือนแบบใหม่จะมาพร้อมกับเสียง ไม่ว่าใครจะมาคอมเมนท์ กดไลค์หรือมาโพสต์อะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเราต่อไปจะมีเสียงเตือนให้เราทราบพร้อมกับตัวเลขสีแดง ๆ ที่ใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน และหากใครกลัวว่าการแจ้งเตือนแบบใหม่จะสร้างความรำคาญก็สามารถปิดการใช้งานได้โดยไปที่ Account Settings > Notifications จากนั้นเลือกปิดเสียงเตือน






นอกจากนี้เฟซบุ๊กยังได้ทดสอบการตอบคอมเมนท์แบบใหม่ เป็นแบบตอบกลับ (Reply) ทำให้เราสามารถเลือกตอบใต้คอมเมนท์ของเพื่อน ๆ ที่ต้องการได้แทนที่จะตอบโพสต์ของเพื่อน ซึ่งการตอบคอมเมนท์แบบนี้จะทำให้ผู้อ่านไม่สับสนว่าข้อความนี้ตอบกลับถึงใครนั่นเอง



ตอบคอมเมนท์แบบ Reply

ทั้งนี้ ฟีเจอร์ใหม่ทั้งสองตัว ทางเฟซบุ๊กเริ่มทยอยเปิดให้ผู้ใช้บางส่วนได้ทดลองใช้งานแล้ว ส่วนใครที่ยังไม่ได้ใช้งานก็อดใจรออีกนิดละกัน คาดว่าเร็ว ๆ นี้คงจะเปิดให้ใช้งานกันได้ทุกคนนะจ๊ะ

คัดลอกมาจาก :http://fbguide.kapook.com/view50643.html

เฟซบุ๊กเพิ่ม Pages Feed ติดตามข่าวสารจากแฟนเพจที่กดไลค์




          ช่วงนี้รู้สึกเฟซบุ๊กจะขยันเป็นพิเศษ เพราะช่วงที่ผ่านมามีการปรับลูกเล่นใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนแบบใหม่ด้วยเสียงและการตอบคอมเมนท์แบบ Reply ที่จะเปิดให้ผู้ใช้งานได้ทดลองใช้กันเร็ว ๆ นี้ ล่าสุดเฟซบุ๊ก เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Pages Feed เป็นส่วนที่ใช้สำหรับกรองฟีดจากแฟนเพจที่เราไปกดไลค์ ทำให้ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ จากทุกแฟนเพจที่เราไปกดไลค์ได้ง่ายขึ้น



(ตัวอย่างหน้า Pages Feed)

Pages Feed ฟังก์ชันใหม่ของเฟซบุ๊กที่ทำให้เราสามารถกรองเฉพาะข่าวสารใหม่ ๆ (News Feed) จากแฟนเพจต่าง ๆ ที่เราติดตาม โดยฟังก์ชันนี้ได้เปิดให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กทั่วโลกใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว โดยวิธีการใช้งานเพียงแค่คลิกทีเมนู Pages feed ที่ปรากฎขึ้นทางซ้ายมือในส่วนของเพจ (Pages) ซึ่งการแสดงฟีดจะแสดงเฉพาะฟีดที่มาจากแฟนเพจเท่านั้น จะไม่เกี่ยวข้องกับสถานะต่าง ๆ หรือการแชร์ลิงก์ของเพื่อน ๆ บนเฟซบุ๊ก


ทั้งนี้ การกรองฟีดในหน้า Pages feed จะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับ News Feed ของหน้าหลักของเฟซบุ๊ก จะเป็นเพียงการคัดกรองฟีด (Pages only) เพื่อแยกมาเปิดอีกหน้าหนึ่งเท่านั้น ส่วนหน้าหลักของการใช้บริการจะแสดงฟีดทั้งหมดเหมือนเดิม ใครที่กดไลค์แฟนเพจไว้หลายเพจ แนะนำให้ใช้ Pages feed เพื่อติดตามข่าวสาร น่าจะเป็นทางออกที่สะดวกที่สุดและทำให้ไม่พลาดข่าวสารสำคัญจากแฟนเพจที่เราติดตาม
คัดลอกมาจาก : http://fbguide.kapook.com/view50945.html

ใช้เฟซบุ๊กให้ปลอดภัยด้วยการแจ้งเตือนผ่านอีเมล เมื่อมีคนแอบล็อกอิน



(ตัวอย่างหน้าเว็บปลอมที่ขโมยข้อมูล)

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

บางครั้งการใช้งานเว็บสังคมออนไลน์ต่าง ๆ โดยขาดความระมัดระวังอาจจะส่งผลเสียและสร้างความเสียหายให้กับเราได้ ซึ่งระยะหลัง ๆ มีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กบางส่วนตกเป็นเหยื่อของเหล่าอาชญากรแห่งโลกไซเบอร์ที่คอยฉวยโอกาส ด้วยการสร้างหน้าเพจปลอม ๆ คล้ายกับหน้าเพจของเฟซบุ๊กแล้วใส่ข้อความเชิญชวนเพื่อให้ผู้ใช้งานตรวจสอบบัญชีเฟซบุ๊กด้วยการระบุชื่อ อีเมลและรหัส เพื่อหวังขโมยข้อมูล และเมื่อผู้ใช้งานหลงกลเผลอไปกรอกข้อมูลเหล่านี้ลงบนหน้าเพจปลอม ๆ อันนั้น ก็จะส่งผลให้บัญชีเฟซบุ๊กถูกยึดหรืออาจถูกนำไปใช้ในทางไม่ดีก็ได้

วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอแนะนำวิธีการตั้งค่าการล็อกอินให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการแจ้งเตือนผ่าน อีเมล (Email) เมื่อมีคนแอบล็อกอินก็จะมีข้อความเตือน ด้วยฟีเจอร์ Login Notifications ที่สามารถตั้งค่าได้เองผ่านเฟซบุ๊ก

สำหรับ Login Notifications สามารถแจ้งเตือนให้เราทราบเมื่อบัญชีเฟซบุ๊กของเราถูกล็อกอินจากเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือที่เราไม่เคยใช้มาก่อน หรือเรียกง่าย ๆ ว่ามีคนแอบล็อกอินบัญชีเฟซบุ๊กของเรานั่นเอง หากเราตั้งค่าแจ้งเตือนล็อกอินเอาไว้ ก็จะรู้ได้ทันทีเมื่อมีคนแอบล็อกอินเฟซบุ๊กของเรา ส่วนวิธีการตั้งค่าติดตามได้จากด้านล่างเลยจ้า

วิธีตั้งค่า Login Notifications แจ้งเตือนเมื่อมีการล็อกอิน

1. ไปที่เมนู Account Settings (ตั้งค่าบัญชีผู้ใช้)



2. คลิกเลือกเมนู Security (ความปลอดภัย) > Login Notifications (การแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบ)



3. เสร็จแล้วติ๊กเลือกในช่อง Email (อีเมล) จากนั้นคลิกปุ่ม Save Change (บันทึกการเปลี่ยนแปลง)


4. เมื่อตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกครั้งที่มีการล็อกอิน จะมีข้อความแสดงเพื่อถามผู้ใช้งาน โดยให้ระบุชื่อที่เราต้องการเพื่อบันทึกว่าเราเข้าใช้งานจากอุปกรณ์อะไร เช่น PC, Mac, iPhone หรือชื่ออะไรก็ได้ จากนั้นให้พิมพ์ชื่อลงในช่อง Device name เสร็จแล้วคลิกปุ่ม Save Device เพื่อบันทึกชื่ออุปกรณ์ที่เข้าใช้งาน


5. ในกรณีที่มีบุคคลอื่นแอบเข้าล็อกอินเข้าใช้งานเฟซบุ๊กของเรา ระบบก็จะทำการส่งอีเมลแจ้งเตือนให้เราทราบว่ามีคนแอบล็อกอินใช้งานบัญชีเฟซบุ๊กของเรา พร้อมทั้งบอกรายละเอียด เช่น ใช้ระบบปฏิบัติการอะไร, เว็บเบราว์เซอร์ยี่ห้อไหนและเลขไอพีแอดเดรส


สำหรับประโยชน์จากการตั้งค่า Login Notifications ไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันบุคคลอื่นที่จะมาลักลอบแอบใช้บัญชีเฟซบุ๊กของเรา ยังทำให้เรารู้และสามารถแก้ไขได้ล่วงหน้าเมื่อมีอีเมลแจ้งเตือนทำให้สามารถเข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่านได้ทันเวลา อีกทั้งภายในอีเมลแจ้งเตือนยังมีรายละเอียดของคนที่แอบล็อกอินอีกด้วย สามารถใช้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีได้ สำหรับสาวกเฟซบุ๊กคนไหนที่ยังไม่ได้ตั้งค่า อย่าลืมตั้งค่ากันนะครับถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ เลยทีเดียว

คัดลอกมาจาก : http://fbguide.kapook.com/view50928.html

Facebook 5.2 แอพฯ เฟซบุ๊กอัพเดท เพิ่มปุ่มแชร์และแท็กเพื่อนจากคอมเมนท์

ช่วงนี้เฟซบุ๊กช่างเอาอกเอาใจแฟน ๆ กันซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ และลูกเล่นต่าง ๆ ทั้งบนเว็บและบนมือถือ โดยล่าสุดเฟซบุ๊กได้ทำการอัพเดทแอพฯ Facebook ใหม่อีกรอบ ด้วยการออกแอพฯ Facebook เวอร์ชั่น 5.2 ใหม่ล่าสุดทั้งบน iOS และ Android มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยมานานแสนนานนั่นก็คือ ปุ่มแชร์ (Share) ที่สามารถกดแชร์จากแอพฯ บนมือถือได้แล้ว งานนี้ทำเอาแฟน ๆ ถึงกับออกอาการน้ำตาจะไหล ปลาบปลื้มกันถ้วนหน้าเพราะในที่สุดสามารถกดแชร์ลิงก์และรูปภาพได้เสียที นอกจากเฟซบุ๊กจะเพิ่มปุ่มแชร์แล้ว ยังเพิ่มความสามารถใหม่ก็คือ การแท็กเพื่อนจากโพสต์และคอมเมนท์ รวมไปถึงรูปภาพต่าง ๆ ได้แล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่สามารถทำได้

ส่วนอื่น ๆ ที่มีการปรับปรุงอีก เช่น เพิ่มไอคอนอิโมติคอน (emoji) ในส่วนของ Messages และสามารถเลือกเรียงลำดับข้อมูลใน News Feed เพียงกดไอคอนด้านซ้ายข้าง ๆ แล้วเลือก Most Top Stories หรือ Show Most Recent เพื่อเลือกดูโพสต์จากหน้า News Feed ตามลำดับ

Facebook 5.2 มีอะไรใหม่บ้าง ?

แชร์ลิงก์และรูปภาพต่าง ๆ ผ่านแอพฯ ได้แล้ว
แท็กชื่อเพื่อนจากโพสต์, คอมเมนท์และรูปภาพต่าง ๆ
เพิ่ม emoji ในส่วนของ Messages
เรียงลำดับข้อมูลในหน้า News Feed

ปุ่มแชร์ (Share) สามารถกดแชร์ลิงก์และรูปภาพได้


Facebook 5.2


แท็กชื่อเพื่อนจากโพสต์และจากคอมเมนท์ ด้วยการพิมพ์ @ ตามด้วยชื่อ


Facebook 5.2


ไอคอน emoji ในส่วนของ Messages


Facebook 5.2


จัดอันดับโพสต์หน้า News Feed เลือก Most Top Stories หรือ Show Most Recent


Facebook 5.2

ทั้งนี้ แอพฯ Facebook 5.2 เวอร์ชั่นใหม่สามารถอัพเดทได้แล้วทั้งบน iOS (iPhone, iPad และ iPod Touch) จาก Apple Store และเวอร์ชั่น Android สามารถดาวน์โหลดได้จาก Google Play Store

คัดลอกมาจาก : http://fbguide.kapook.com/view51002.html